วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ประสบการณ์ใหม่

หุ หุ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาไปสอบสัมภาษณ์ ที่มหาลัยสวนดุสิตมา โอ้โห ร้อนมากกกก 555++
ตอนแรกก้อตื่นเต้นนะ แต่พอเข้าสัมภาษณ์จริงๆ ความตื่นเต้นก้อลดลงซะงั้น (ดี ดี)
สัมภาษณ์ 2 รอบ
-สัมภาษณ์กับฝรั่ง พูดเบาอ่ะมะค่อยได้ยิน คำถามที่ถามก้อไม่ค่อยยากมากนัก เช่น เวลาว่างทำอะไร อยากเปนอะไร เพราะอะไรถึงอยากเปน เคยไปประเทศไหนมาบ้าง (ตอนแรกฟังเปนอยากไปประเทศไหน 555++) ชอบกินอะไร แล้วไอ้ของที่ชอบกินอ่ะทำยังไงเปนยังไง....(อันนี้ไม่ได้ตอบอ่ะว่าทำยังไง ยิ้มใส่อย่างเดียว)โหถามนานอ่ะ ของเพื่อนที่ไปด้วนกันนะ ถามนิดเดียวเอง เราได้สัมภาษณ์กับคนถามเยอะอ่ะ
-ส่วนสัมภาษณ์กับคนไทยนะ เค้าก้อถามว่าถ้ามีเวลา 1 วัน จะไปเที่ยวนครปฐม จะจัดเวลา การเดินทาง การท่องเที่ยวยังไง
55++ เราก้อบรรยายอย่างเมามัน (แต่ไม่รู้เค้าจะมันกับเรารึป่าวนะ)
ไม่รู้ว่าผลจะออกมาเปนยังไง เด๋วได้รู้กัน ไม่ได้ไม่เปนไร แค่ได้ไปสอบเพื่อให้รู้ว่าเปนยังไง ก้อเปนพอ

วันอังคารที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2551

กิน เบต้าแคโรทีน มากไป เสี่ยงมะเร็ง

กินเบต้าแคโรทีนมากไป เสี่ยงมะเร็ง

จากการตรวจดูในอินเตอร์เน็ตแล้ว จะพบว่ามีการโฆษณาขายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อเสริมสร้างสุขภาพร่างกาย โดยอ้างว่ามีส่วนผสมของ "สารต้านอนุมูลอิสระ" ที่มีประสิทธิภาพสูง และมักระบุว่าไม่มีผลข้างเคียงใดๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ข้อมูลเหล่านี้เป็นความจริงหรือไม่ การบริโภคอาหารเสริมอนุมูลอิสระอย่างต่อเนื่องและจำนวนมาก จะส่งผลต่อสุขภาพของเราอย่างไร เป็นคุณหรือเป็นโทษ ... เป็นหลายคำถามที่หลายคนอย่างรู้และควรต้องรู้

ดังที่ทราบกันดีกว่า สารต้านอนุมูลอิสระมีอยู่หลายชนิด และแทบจะมีอยู่ทั่วไปในอาหารทุกมื้อ ทั้งนี้ อาหารที่เรามั่นใจได้แน่นอนว่ามีสารชนิดนี้ คือ เมล็ดพืชทุกชนิด แต่สิ่งที่ควรระวังคือ เมล็ดพืชบางชนิดมีพิษ ดังนั้น สารพิษจึงอาจหลุดออกมาพร้อมกับสารต้านอนุมูลอิสระได้

นอกจากนี้ ใบพืช โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นสีเข้ม ไม่ว่าจะเป็นสีเขียว เหลือง หรือแดง ก็มีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่เช่นกัน รวมทั้ง เปลือกผลไม้สุก ก็มีสารต้านอนุมูลอิสระมากเช่นกัน โดยการจากวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ชาวอินเดีย พบว่า เปลือกของมะม่วงสุกที่ปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระมากพอ ที่ควรจะเก็บมาสกัดมาให้สาวๆ ทานเพื่อบำรุงผิว

ส่วนที่มีความสงสัยกันว่า หากนำสารต้านอนุมูลอิสระมาทาผิวหนังจะได้ผลหรือไม่นั้น พบว่า เป็นวิธีที่ได้ผลเช่นกัน แต่มีต้นทุนสูงกว่าการกิน
เพราะการผลิต ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่ผสมสารต้านอนุมูลอิสระนั้น ต้องมีการสกัดสารต้านอนุมูลอิสระออกมาจากแหล่งต่างๆ แล้วนำไปผสมกับสารอื่นๆ จึงทำให้มีราคาแพงมาก เมื่อนำมาเทียบกับการกิน จะพบว่าต้นทุนการป้องกันอนุมูลอิสระด้วยการกินจะถูกกว่ากันมาก เนื่องจากระบบทางเดินอาหารของเรามีระบบสกัดสารที่มีประโยชน์ที่ดีที่สุดอยู่แล้ว

ประโยชน์ของการกิน "สารต้านอนุมูลอิสระ" จากอาหารยังมีอีก คือ หากเรารับสารต้านอนุมูลอิสระจากการกินอาหาร โอกาสที่จะได้รับสารนี้มากเกินความต้องการของร่ายกาย จะน้อยกว่าการกิน "อาหารเสริม" เพราะอาหารเสริมจะมีสารนี้สูงมาก เนื่องจากอยู่ในรูปของสารเข้มข้น เราจึงควรคำนึงถึงวรรคทองของ "บิดาวิชาพิษวิทยา" ไว้ให้ดีว่า... สารเคมีทุกชนิดมีทั้งประโยชน์และโทษ ขึ้นอยู่กับขนาดหรือปริมาณที่บริโภคเข้าไป

ดังนั้น ถ้าเราไม่ต้องการได้รับสารต้านอนุมูลอิสระมากเกินไป การกินอาหารเป็นวิธีที่ดีที่สุด โดยเรามีข้อมูลยืนยันว่าเรื่องนี้ จากการศึกษาเรื่องการใช้สารต้านอนุมูลอิสระ "เบต้าแคโรทีน" เพื่อป้องกันโรคมะเร็งปอด ซึ่งผลการศึกษาพบว่า การให้ตำรวจจราจรในหลายประเทศทานอาหารเสริมสารต้านอนุมูลอิสระ แทนที่จะเป็น "การลด" โอกาศการเกิดมะเร็งปอด กลับกลายเป็น "การเพิ่ม" อัตราการเกิดมะเร็งปอดให้มากขึ้น!!!

เนื่องจาก สารเบต้าแคโรทีน คือ สารต้านอนุมูลอิสระ (Anti-Oxidant) ที่เมื่อร่างกายได้รับมากกว่าความต้องการ จะหันไปทำหน้าที่ในทางตรงกับข้าม โดยกลายตัวเป็น "Pro-Oxidant" ซึ่งเป็นสารที่ส่งเสริม "การเกิด" อนุมูลอิสระ ด้วยเหตุผลเชิงชีวะเคมี

ด้วยเหตุนี้ การบริโภคเบต้าแคโรทีนในรูปแบบของอาหารเสริมที่มากเกินไป อาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง ขณะที่การรับประทานอาหาร เช่น มะละกอสุก ฟักทอง ตำลึง โอกาสที่ร่างกายจะได้รับสารนี้มากเกินไปจะเป็นไปได้ยาก เพราะเราจะอิ่มก่อนได้รับปริมาณมากเกินไป โดยมีกระเพาะเป็นผู้กำหนด

วันพุธที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2551

Assomption


L'Assomption de Marie est un dogme de l'Église catholique romaine selon lequel, au terme de sa vie terrestre, la mère de Jésus aurait été « élevée au ciel ». Le terme assomption provient du verbe latin assumere, qui signifie prendre, enlever.
L'Assomption est aussi le nom de la
fête catholique célébrant l'assomption de Marie, le 15 août.


Histoire

Rien n'est dit dans les Évangiles sur la fin de vie de Marie. Une tradition rapporte que l'Assomption aurait eu lieu à Éphèse à la Maison de la Vierge Marie, accompagnée de l'apôtre Jean, à qui le Christ, sur la croix, avait confié Marie ; une autre tradition parle de Jérusalem.
Quoi qu'il en soit les catholiques ont adopté cette croyance avec ferveur, au point qu'en France le roi
Louis XIII avait fait du 15 août la fête nationale, décision reprise par la Restauration après que Napoléon Ier y ait subsitué une éphémère « Saint Napoléon ». Le 15 août est toujours la fête nationale des Acadiens. En France, elle demeure la fête patronale de nombreux villages, les églises ou cathédrales dédiées à Notre-Dame-de-l'Assomption sont nombreuses, et le 15 août est le jour le plus important de l'année à Lourdes.
La République française en a fait un
jour férié.


Définition

Le 1er novembre 1950, l'Assomption de Marie est établi sous forme de dogme par la constitution apostolique Munificentissimus Deus du pape Pie XII. La constitution dogmatique Lumen gentium du concile Vatican II 1964) énonce :
« Enfin la Vierge immaculée, préservée par Dieu de toute atteinte de la faute originelle, ayant accompli le cours de sa vie terrestre, fut élevée corps et âme à la gloire du ciel, et exaltée par le Seigneur comme la Reine de l'univers, pour être ainsi plus entièrement conforme à son Fils, Seigneur des seigneurs, victorieux du péché et de la mort. »